วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2552

บุญอะไรจึงเกิดมาสวยทุกชาติ

พระนางรูปนันทา สวยทุกชาติ??

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)
อัปปมาเทนะ สัมปาเทถาตีติ

ณ โอกาสบัดนี้ อาตมาภาพจะได้แสดงพระสัทธรรมเทศนา ในเรื่องราวปุพพคาถา อันเป็นเครื่องโสรสสรงองค์ศรัทธาบารมี ที่บรรดาท่านนริศราทานบดีทั้งหลาย ได้พร้อมใจกันมาบำเพ็ญกุศลประจำปักษ์ คือวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ซึ่งตรงกับวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๒๕ วันนี้ การที่บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายตั้งใจบำเพ็ญกุศลบุญราศี เนื่องจาก ทานมัย คือบุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล ภาวนามัย คือตั้งใจสดับรับรสพุทธพจน์เทศนา อันเป็นคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า วันนี้ทุกคนต้องการความสุขคือพระนิพพาน ฉะนั้น วันนี้ อาตมาภาพได้นำพระธรรมเทศนาขององค์สมเด็จพระพิชิตมารบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า มาแสดงแก่บรรดาท่านพุทธบริษัทในเรื่องราวของ พระนางรูปนันทาเถรี ความมีอยู่ว่า...ฯลฯ

...แล้วกลับตามย้อนถอยหลังมาว่า ทำไมพระนางรูปนันทาจึงสวยมาก ตอนนี้องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้ในที่บางตอน ท่านกล่าวว่า พระนางรูปนันทาเป็นคนในตระกูลศากยราช เกิดในตระกูลของเจ้าก็จริงแหล่ แต่ทว่าเป็นเจ้าที่มีความสวยงดงามเป็นกรณีพิเศษ ไม่มีหญิงใดในกรุงกบิลพัสดุ์มหานครจะสวยเท่าพระนางรูปนันทา

คำว่า รูปนันทา แปลว่า มีรูปเป็นเครื่องบันเทิง คือมีรูปเป็นเครื่องดีใจ สมเด็จพระจอมไตรตรัสว่า ในอดีตชาติก่อน คือว่าทุกชาติที่ผ่านมามันเป็นนิสัยนะ พระพุทธเจ้าบอกว่านิสัยนี้ละไม่ได้ คนจะละนิสัยได้มีคนเดียวคือพระพุทธเจ้า ถ้ายังไม่เป็นพระพุทธเจ้าเพียงใด ก็ทรงนิสัยตามนั้น เมื่อได้บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณแล้วก็ละนิสัยนั้นได้ มีองค์เดียว คนอื่นนอกจากพระพุทธเจ้าแม้แต่พระอรหันต์ทั้งหลายก็ละนิสัยเดิมไม่ได้ อย่างพระสารีบุตรอดีตเห็นจะเกิดเป็นลิงมามาก เป็นอัครสาวกขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า เวลาพบลำคลองหรือลำราง พระอื่นค่อย ๆ ข้ามไป หรือค่อยๆ ถกผ้าลุยน้ำไป แต่พระสารีบุตรขัดเขมรแล้วก็โดดไป เป็นอันว่านิสัยนี้ทิ้งไม่ได้แม้ว่าจะเป็นอัครสาวก

สำหรับพระนางรูปนันทาก็เหมือนกัน ที่สมเด็จพระภควันต์บรมศาสดาตรัสว่า ชาติในอดีตของรูปนันทาทุกชาติที่เกิดเป็นมนุษย์ นี่หมายความว่าทุกชาติที่เกิดเป็นมนุษย์ เวลาที่เธอจะทำบุญทำทาน ภาชนะทุกอย่างต้องสะอาดหมด ตั้งแต่สมัยเป็นคนยากจนก็ตามที ภาชนะมันอาจจะไม่ดีเท่าชาวบ้านเขา แต่ว่าการทำความสะอาดภาชนะที่จะไปทำบุญต้องสะอาด ถ้าไม่สะอาดเธอไม่ทำ ต่อมาจนกระทั่งเป็นลูกเศรษฐีหรือลูกกษัตริย์ มาก็หลายวาระ เวลาที่จัดภัตตาหารไปถวายพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ภาชนะทุกอย่างเธอต้องล้างเอง ต้องเช็ดเอง ต้องทำเองทุกอย่างจนกระทั่งเป็นที่พอใจ

องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า อาศัยที่รูปนันทาเป็นคนชอบความสะอาด รักความสะอาด เวลาให้ทานหรือบำเพ็ญกองการกุศล เหตุนี้เป็นปัจจัยให้รูปนันทาเป็นคนสวยทุกชาติ มาชาติสุดท้ายนี่เป็นคนสวยที่สุด แต่ว่าไอ้ความสวยก็อยู่ไม่ได้นาน แล้วองค์สมเด็จพระพิชิตมารจึงได้กล่าวแก่บุคคลทั้งหล ายว่า ภิกขเว ดูก่อนภิกษุทั้งหลายความจริงท่านเทศน์กับพระกับคน แต่พระนั่งอยู่ใกล้จึงปรารภกับพระว่า

ภิกขเว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงดูสภาวะของหญิงที่มีรูปงามที่ถวายงานพัดตถาคตอยู่ ในไม่ช้าไม่นานเท่าไร องค์สมเด็จพระบรมครูคือตถาคตเทศน์ไม่ทันจะจบเธอก็ตาย เวลานี้กระดูกเรี่ยรายลงบนพื้นปฐพี จะหาสิ่งที่ปรากฎเป็นร่างกายนี้ก็ไม่ปรากฎฉันใด พวกท่านทั้งหลายที่สดับรับรสพุทธพจน์เทศนาอยู่เวลานี ้ ภายหลังไม่ช้าจากวันนี้ไป วันคืนล่วงไปๆ ชีวิตก็เสื่อมไปทีละน้อย เข้าไปหาความตาย ถ้าอายุยืนสักหน่อยก็มีอายุถึงแก่ แก่แล้วก็ตาย ถ้าบาปกรรมที่เป็นอกุศลทำไว้มากไซร้ เช่น ปาณาติบาต ก็สามารถจะตัดชีวตไปในระหว่างกลางให้ถึงแก่ความตายได ้ ฉะนั้น พวกเธอทั้งหลายจงอย่าประมาทในชีวิต อย่าคิดว่าชีวิตจะยืนยาวต่อไป

แล้วองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงนำมาซึ่งอริยสัจโดยย่อ นั่นก็หมายความว่า เธอทั้งหลายจงรู้สภาพว่าการเกิดนั้นมีสภาพเป็นทุกข์ การทรงชีวิตอยู่นั้นมีสภาพเป็นทุกข์ทุกอย่าง ความหิวก็เป็นทุกข์ ความกระหายก็เป็นทุกข์ การป่วยไข้ไม่สบายก็เป็นทุกข์ การประกอบการงานก็เป็นทุกข์ การปวดอุจจาระปัสสาวะก็เป็นทุกข์ มีความปรารถนาไม่สมหวังก็เป็นทุกข์ มันทุกข์ทั้งหมด เพราะว่าปรากฎแล้วว่าคนเกิดมาแล้วไม่มีความสุขแท้จริง

(คัดเฉพาะบางตอนที่เกี่ยวข้องกับชื่อเรื่อง จาก >> http://sites.google.com/site/sphrathewtheph/Home-32 (ศ.ธรรมทัสสี)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น